เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
numerous | October Prompts 2024wallflowerblu
XV. Mansion
  •  

    คำสาป บ้านหลังนั้นโดนคำสาปเพราะภรรยาผิดประเวณี น้ำเสียงของโนโชมิเปรยเนิบช้า หลังถูกซาจิโกะเอ่ยถาม เพราะเจ้าของผมเปียประบ่าดำขลับเพิ่งจะย้ายมายังโรงเรียนประจำจังหวัดโทจิกิได้ร่วมหนึ่งสัปดาห์แรก เด็กประถมอย่างเธอเพียงแค่ทนสงสัยเรื่องอพาร์ตเมนต์ที่ถูกทิ้งร้างต้นซอยบ้านตัวเองไม่ไหวจึงเอ่ยถามเพื่อนร่วมห้องลอย ๆ แต่ก็ดูเหมือนเพื่อนใหม่กลุ่มนี้จะให้ความร่วมมือเสนอความเห็นกับเธอเกินคาด 


    สมาชิกหนึ่งในกลุ่มส่งเสียงฮือฮาตามประสา ก่อนมาริเอะจะยกศอกทุ้งปรามเบา ๆ กลิ้งใส่สีข้างโทชิโกะให้เงียบเสียงเรื่องตื่นกลัวพร่ำเพรื่อ เหตุเพราะบรรยากาศรอบนอกในเวลาเที่ยงวันยังจัดจ้า กระดานดำหน้าห้องส่องประกายฝุ่นชอล์กเข้าคู่กันดีกับผนังไม้สีทึบรายล้อม เทียมแสงตั้งฉากของพระอาทิตย์ที่แยงสะท้อนผ่านเข้ามายังบานหน้าต่างกร่อนซีด โต๊ะเขียนหนังสือสี่ตัวถูกหันเข้าหากันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานยาว บนถาดหลุมเมนูหลักวันนี้มีผัดผักกับเนื้อ ส่วนเครื่องเคียงเป็นปลาแห้ง ซุปจากปลาโอแห้ง ปิดท้ายด้วยนมช็อกโกแลต หากแต่เด็กทั้งสี่คนกลับเชิดปากหนีอาหารตรงหน้าเสียสนิท แล้วสนใจเพียงแค่เรื่องเล่าของโนโชมิอย่างใจจดใจจ่อ 


    แล้วมันเป็นคำสาปอะไรล่ะ โทชิโกะรวบช้อนส้อมเท้าคาง พลางเพยิดหน้าเล้าหลือต่อ


    ก็เธอเป็นชู้กับสามีคนอื่นน่ะสิ แต่แล้วก็มีข่าวว่าชิงผูกคอตายซะก่อน ตอนที่ทุกฝ่ายรู้ความจริง เท่าที่ได้ยินมาเขาลือกันว่าถ้าเราผ่านบ้านหลังนั้นแล้วเผลอมองเข้าไปละก็— ถ้าโชคร้ายดวงตกจะเจอเธอห้อยต่องแต่งอยู่ในบ้านให้เห็น แล้วหลังจากนั้นชีวิตส่วนตัวก็จะตามมาด้วยเรื่องร้าย ๆ แถมยังไม่มีวิธีแก้ด้วย แต่ถ้าโชคดี...ก็คงไม่เจอมั้งนะ


    แล้วทำไมเราถึงต้องเจอเรื่องโชคร้ายเพราะเธอด้วยล่ะ เป็นมาริเอะที่ฉุกสงสัยขึ้นมา


    โนโซมิเม้มปากแน่น เด็กหญิงประถมปลายครางเสียงอ่อนพึมพำในลำคอ ราวกำลังไล่ต้อนความคิด ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจโพล่งต่ออย่างมั่นอกมั่นใจ ก็เพราะคนในอพาร์ตเมนต์เห็นไงล่ะง่าย ๆ เลยนะ เธออาจตายเพราะแรงแค้น มากกว่าจะมาฟูมฟายเสียใจก็ได้ สิ่งที่คนนอกเห็นแล้วเอาแต่เมินเฉยไปง่าย ๆ เหมือนกันถึงได้ดูสมเหตุสมผลกับตอนที่เธอยังมีชีวิตจนน่าโมโห มันคงง่ายที่จะเป็นแรงศรัทธาว่ามีจริงแล้วพาลให้โชคร้ายละมั้งถ้าคนเชื่อ ยังไงก็มีอยู่ จริง ใช่ไหมล่ะ?” กล่าวพลางเหลือบมองซาจิโกะข้างที่นั่งโต๊ะฝั่งเดียวกัน เธอไม่รู้ว่าควรจะทบทวนส่วนไหนให้คนเมืองอื่นอย่างซาจิโกะเลิกสบประมาทด้วยแววรั้นแย้งตอบเพื่อนร่วมห้องพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ดังเดิมให้เชื่อในเรื่องเล่าดี ราวสายตาคู่นั้นต้องการจะบอกกับเพื่อนทั้งสามด้วยวลีสั้น ๆ ไร้สาระ แต่เมื่อชั่งใจเงี่ยหูฟัง ขณะก้มหน้าก้มตาตักข้าวคำโตเข้าปากต่อ โนโซมิก็ไม่ได้ยินคำนั้นหลุดออกมา 


    กระทั่งเวลาเลิกเรียนมาเยือน เสียงเจื้อยแจ้วจากบรรดาเด็กหญิงผมเผ้ารุงรังกลุ่มใหม่ไหวมือร่ำลากันและกัน ตรงกันข้าม ซาจิโกะกลับไม่ใส่ใจ พอเหมาะกับโนโซมิที่หมุนตัวเดินกลับมา หยุดฝีเท้าลงตรงหน้าแผ่นหลังงุ่นง่านของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการผูกเชือกรองเท้าใต้พื้นต่างระดับ ดวงทึบสีนิลด้านสนิท พร่าบางสลับคมเข้มเกินกว่าจะทะลวงเข้าไปเสาะหาตัวตนค่อย ๆ โน้มเอนลงมา กระซิบเสียงเอื่อย ทว่าขัดแข็ง บอกกฎบ้างข้อแก่ซาจิโกะ เล็กน้อย แล้วทอดน่องจากไป



    ซาจิโกะเดินผ่านเมนชันคร่ำครึด้วยแววครุ่นสงสัย เธอเรียบเรียงถ้อยคำของโนโซมิออกมาเป็นฉาก ๆ เป็นวรรค ๆ เป็นสีทึบมัวคู่เดิมแสนน่าอิจฉา พ่วงน้ำเสียงผ่านรูปประโยคขานเล่าเพียงผิวปากทรงอิ่ม ชวนให้คนฟังอยากงัดความโอหังซัดเข้าใจกลางถ้อยหวังดีที่ว่าให้อยู่ห่างจากห้องเลข 301 บนตึกสูงเพียงสี่ชั้นเหลือเกิน


    รู้ตัวอีกทีเธอก็กลับมายังบ้าน ไม่ได้แวะขึ้นไปอพาร์ตเมนต์โกโรโกโสนั่นตามใจอยาก เพราะสายเรียกเข้าที่รบเร้าให้เธอกลับมาก่อนค่ำ แม่บอกกับเธอว่าจะออกไปจ่ายตลาดหลังเธอกลับถึงบ้าน คงเพราะวันนี้พ่อกลับดึก แม่ถึงได้ทำอาหารช้าไปด้วย ธุระของพ่อมักจะเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา เป็นฟองระเหยปุดปุดชวนคลื่นเหียนบนเตาแก๊สที่ค่อย ๆ ลดระดับฟู่ฟ่า ทีละน้อย ลอยละนิด กระทั่งแบนราบเป็นผืนเดียวกันในชาม— แล้วค่อยอัดสถานะเคยหลอมเหลวเข้าไปเป็นก้อนกลมในตู้กับข้าว— เป็นไอระเหยของกระแสน้ำอุ่นที่แม่เปิดทิ้งไว้ เป็นรอยลากฝุ่นจากห้องครัวใต้ถุงเท้าคู่เก่าที่แม่ย่ำมันยามวกมาจัดแจงโต๊ะอาหาร เป็นเสียงระงมของโทรทัศน์จากรายงานกรมอุตุวิทยาที่ค่อย ๆ เบาทำนองเหลือเพียงเสียงหัวร่อของช่องหนังดารดาษ ที่สองแม่ลูกอย่างเราไม่สนใจ เล็กน้อยในอก แต่กลับโหวงเหวงขนาบลำตัว เกินกว่าพ่อจะกลับมาเติมเต็มบนฟูกนอนข้าง ๆ ได้ทันท่วงที แม่ปล่อยไป ไม่สนใจเรื่องอื่นให้มากความ ซาจิโกะจึงไม่ถามต่อ เธอเพียงแต่ต้องติดสอยผู้ปกครองที่ถูกย้ายแหล่งทำงานตามสิ่งประสงค์ เพราะอยู่ใต้การปกครองของคนทั้งสองก็เท่านั้น แม่รู้เรื่องเมนชันร้างนั่นไหม เธอถาม สายตาจับจ้องเงาสลัวเลือนเริ่มขยับเคลื่อน เบือนพาดบิดเบี้ยวเคียงฝ้าเพดาน ทำไม แม่ครุ่นทับ เด็กสาวยกยิ้ม เป็นไปตามคาดที่คนในตลาดจะไม่บอกแม่ เพราะความเร่งรีบของพ่อที่บอกว่าจะกลับมาถึงในเวลาเท่าใดผ่านปลายสาย แม่ถึงได้รีบสาวเท้ากลับกลับมารัวเร็ว พ่อไม่รู้เหรอ เธอย้ำกับคนเป็นพ่อต่อบ้าง พ่อไม่ได้ปริปาก แค่พ่นจังหวะฮึแรง ๆ ในกล่องเสียงหนเดียว หนูไม่เชื่อหรอกว่ามันจะโชคร้ายยังไง แต่เธออยู่ตรงนั้นจริง ๆ ต่องแต่งบนใบพัดที่หนูไม่เคยรู้เลยว่ามันจะไหวแรงแค่ไหน ถ้าอยู่ใต้แรงขาดออกซิเจนแบบนั้น แบบที่...


    ไม่! ไม่!” เสียงพ่อกู่ตะคอก ซาจิโกะคิดว่าพ่อคงกำลังเบิกตาฝ่าความมิดสุดมืดจะหยั่งนำทางอยู่ เพื่อกระโจนร่างหุนหัน กะเผลกนาบข้อเท้า พลิกกลับ วกแนบ ถลาเกลือกผ้านวมลากไถจากฟูกนิ่มไปเปิดสวิตช์ไฟซะจนแสบจ้าสายตา


    นิทานน่ะ หนูต้องมีเรื่องกล่อมนอนถึงจะหลับ ซาจิโกะหาวหวอดหน้าตาเฉย จนแม่ต้องปรับสายตาให้ชินกับม่านแสงเรืองไสวเหนือหัว ก่อนค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมาหรี่โพรงกลมโต พลางทอดฝ่ามือตบเข้าเหนือเนินสะโพกเด็กหญิงข้างกายให้จมปรักอยู่ในอาการสะลึมสะลือพร้อมหลับโดยเร็ว ก่อนที่มันจะถึงเวลาทำงานเช้าของพ่อในไม่ช้า


    ปิดไฟเถอะค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว เธอกล่าวตอบสามี พร่องเสียงงัวเงียเต็มประดา


    เพื่อนที่โรงเรียนเล่าให้ฟังน่ะค่ะหนูกลัวจังเลย คุณพ่อ...


    คุณคะ...ฉันอยากนอนกอดคุณอีก เขยิบมาทางนี้หน่อยสิคะ


    พ่อคะเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนบอกว่าแม่เป็นชู้กับคนอื่น มันไม่จริงใช่ไหม


    ที่คุณทำแบบนั้น ทำไมคะ...แล้ว...ฉันตอนหมุนตัวสวยไหม


    ซาจิโกะสะอื้นฮึก แม่คะ พ่อ...จะทิ้งเราอีกแล้ว ข้อนิ้วยื่นไปยังชายผู้ซึ่งล้มลุกคลุกคลานอยู่หน้าประตูใบหน้าบูดเบี้ยวนั้นเริ่มเอ่อปริ่มความแผดแสบของเหงื่อไคลคลอถมหยาดน้ำตา


    คุณคะ... ฉันตอนหมุนตัวสวยไหมคะ เธอถามย้ำ กดเน้นถ้อย ก้องชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผู้เป็นสามีไม่ยอมตอบ ท่ามกลางตึกสูงราคาแพงใจกลางเมืองมิยางิ เขากลับส่งเสียงกู่ตะโกนอย่างหวาดกลัว แผดคีย์ผิดเพี้ยนน่าเกลียดไปทั่วสารทิศ แทนที่จะตอบคำถามของธรรมดา ๆ ของภรรยา 


    ที่ใหม่ ที่นี่ หนวกหูเกินกว่าสองแม่ลูกจะคุ้นเคย


    เด็กหญิงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีฝ่ามือเล็ก ๆ ประกบเข้าหากันพลันปรบแรงถี่ ไหว... สั่น... 




    ครึกครั่กครึกครั่ก ครึกครั่กครึกครั่กครึก ครั่ก ครึกครั่กครึกครั่ก ครึกครั่ก ครึกครั่ก ครึก กึก... กึก...ง



    หล่น 



    ตุ๊บ! 




    ครั้งแล้ว ครั้งเล่า 


    ขณะเปลื้องน้ำลายทวนซ้ำว่าแม่สวยแค่ไหนในสายตาของเธอ




    พ่อคะรีบกลับมานอนได้แล้ว พรุ่งนี้หนูต้องไปโรงเรียน มีคนรอหนูอยู่

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in