รีวิวเว้ย (1899) หนึ่งในพิธีปัจฉิมนิเทศที่ได้รับความสนใจและถูกกล่าวถึงมากที่สุดครั้งหนึ่งของ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คือสุนทรพจน์ของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนซีรีส์ Harry Potter ในปี 2008 สุนทรพจน์ของเธอไม่เพียงแต่ถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมายเท่านั้น แต่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ ในวันนั้น เจ.เค. โรว์ลิ่ง ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญสองประการที่เธอเชื่อว่าเป็นหัวใจหลักของการใช้ชีวิต ประการแรกคือ "คุณค่าของความล้มเหลว" เธอบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวในช่วงเวลาที่ชีวิตตกต่ำที่สุด ทั้งการหย่าร้าง ความยากจน และความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวในทุก ๆ ด้าน แต่เธอกลับมองว่าความล้มเหลวเหล่านั้นไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเหมือนการขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เธอมองเห็นตัวเองและเป้าหมายที่แท้จริงได้ชัดเจนขึ้น ความล้มเหลวสอนให้เธอรู้จักความสำคัญของมิตรภาพ ความอดทน และความสามารถในการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดที่นำไปสู่ความสำเร็จในเวลาต่อมา ส่วนประการที่สองคือ "ความสำคัญของจินตนาการ" โรว์ลิ่งไม่ได้หมายถึงแค่จินตนาการที่ใช้ในการสร้างสรรค์โลกเวทมนตร์เท่านั้น แต่เธอยังเน้นย้ำถึงพลังของจินตนาการในการทำความเข้าใจผู้อื่น "ความเห็นอกเห็นใจ" คือสิ่งที่เธอต้องการสื่อสาร จินตนาการทำให้เราสามารถก้าวเข้าไปอยู่ในรองเท้าของคนอื่นได้ ทำให้เราเข้าใจความทุกข์ ความรู้สึก และประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากตัวเราเอง และในท้ายที่สุดแล้ว มันคือพลังที่ช่วยให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นและสร้างโลกที่ดีขึ้นได้

หนังสือ : ชีวิตที่ดีมาก ๆ
โดย : J.K. ROWLING แปล สฤณี อาชวานันทกุล
จำนวน : 80 หน้า
.
"คุณค่าของความล้มเหลว" ในความหมายของ เจ.เค. หมายคสามถึงการได้เผชิญกับความยากลำบาก ความเหนื่อยอ่อน ความหายนะและสิ่งที่ไม่เป็นดังหวังตั้งใจในการใช้ชีวิต เจ.เค. บอกเล่าถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ว่ามันคือตัวช่วยสำคัญให้เราได้ "เรียนรู้และเข้าใจชีวิต" รวมถึงได้เข้าใจว่าชีวิตนั้นหลายครั้งมันจำเป็นที่จะต้องวางตัวอยู่บนความล้มเหลวผิดพลาด เจ.เค. บอกเล่าให้เห็นถึงความผิดพลาดล้มเหลวในชีวิตของเธอ ที่หลายครั้งหลายหนจนเธอเองก็ยากที่จะนับว่ามันเคยเกิดขึ้นกับเธอกี่ครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ เจ.เค.
บอกเล่า คือ ทุกครั้งที่ผ่านมันมาได้เราจะเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นและเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ล้มเหลวแล้วเก็บเอามันมาเป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตในครั้งต่อ ๆ ไป
.
"ความสำคัญของจินตนาการ" ในมุมของ เจ.เค. เธอไม่ได้พูดถึงการจินตนาการในเรื่องของ "ชีวิตที่ดีหรือชีวิตที่มีความสุข" หากแต่การจินตนาการในความหมายของ เจ.เค. คือการจินตนาการถึง "ความยากลำบาก" ในชีวิตของบุคคลอื่น รวมถึงการจินตนาการว่าเป็นคนอื่นในสถานการณ์หนึ่ง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการทำความเข้าใจว่า "ถ้าเราเป็นเขาเราจะรู้สึกอย่างไร" และการจินตนาการเหล่านี้จะช่วยทำให้เราเข้าใจหัวอกของคนอื่น และเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความสุข ความงดงามกับบุคคลอื่น
.
"ชีวิตที่ดีมาก ๆ" ในทัศนะของ เจ.เค. ตามที่ได้ให้ไว้ในงานปัจฉิมนิเทศ ไม่ได้บอกกับเราว่าเราจะมีชีวิตที่ดีที่สุด ประสบความวำเร็จที่สุดและรวยที่สุดได้อย่างไร หากแต่บทปัจฉิมนิเทศในวันนั้นพร่ำบอกกับใครหลายคนว่า "ชีวิตที่ดีมาก ๆ" นั้นประกอบสร้างขึ้นมาจากความสำเร็จและความล้มเหลว หากแต่เรารู้จักที่จะเรียนรู้ รับมือ และหาวิธีการในการจัดการรับมือกับมัน เพียงเท่านั้นชีวิตที่ดีมาก ๆ ก็จะปรากฎขึ้นกับผู้ที่รับมือและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้อย่างดี โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าเราต้องไม่ลืมว่าบุคคลอื่นก็เป็นกลไกการเรียนรู้และช่วยสร้างให้เรามีชีวิตที่ดีได้เช่นเดียวกับความสำคัญของความล้มเหลว เพราะบางครั้งบางเหตุการณ์เราไม่จำเป็นต้องเผชิญกับมันด้วยตัวเอง หากแต่เรียนรู้และเข้าใจมัยผ่านบทเรียนของผู้อื่น พร้อมทั้งการสร้างความรู้สึกเมตาต่อบุคคลอื่นด้วยเช่นเดียวกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in