เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyffm
รักแม่ทุกเดือนสิงหา
  •           เมื่อวานข่อยได้เรียนรู้ภาษารักของตัวเอง ข่อยนั่งทบทวนกับตัวเองว่าอะไรคือภาษารักของข่อย ซึ่งสรุปได้อย่างแน่นอนว่า การที่เราหลงใหลไปกับความชอบของใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพลง มังงะ อนิเมะ ภาพยนตร์ และซีรีย์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าเสพ ดื่มด่ำ ยกย่อง ตลอดจนเปิดเปลือยให้มันเข้ามาครอบครองพื้นที่ภายในใจ ซึ่งข่อยเชื่ออย่างสนิทใจจริงๆ ไม่มีทางที่คนเราจะมีรสนิยมตรงกัน นอกเสียจากว่าเขาจะทักทายเราด้วยรสนิยมเหล่านั้นแทนที่ด้วยอะไรเช่นคำทักทายหรือการแนะนำตัวเป็นต้น

              หากแต่กลับมีบุคคลทำให้ข่อยยอมเปิดใจกับอะไรหลายอย่าง หลายครั้งที่ข่อยฉงนสงสัยถึงรสนิยมชมชอบบางอย่างที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวให้ได้สัมผัสถึงการมีอยู่ของมัน การเล่นซ่อนแอบจบลงเพราะการนำพาของใครบางคน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องหลักที่อยากจะพูดหรอกนะ เผลออีกทีก็เวิ่นเว้อไปซะเยอะ เอาหละ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า                                                                                                                                          ข่อยนับถือดวงดาว ท้องฟ้า วงกลม วงรี เส้นตรง เส้นทแยง เส้นละติจูด เส้นลองติจูด หรืออะไรก็ตามแต่ที่ผนวกรวมกันเป็นพื้นดวงให้คนอย่างข่อยได้ศึกษา เพราะมันเปิดทางให้ข่อยได้กลับมาทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างข่อยกับแม่ ณ แห่งใดแห่งหนึ่งที่ดวงดาวสัมผุสกัน ใจความนั้นหมายได้ว่า ข่อยกับแม่ถึงแม้เราจะมีอะไรเชื่อมโยงถึงกันมากมายนอกจากสายเลือด(แม่มีมีนเด่น ข่อยก็มีมีนเด่นเช่นเดียวกัน) หากแต่เรากลับไม่เข้าใจกันเท่าที่ควร ข่อยเป็นคนอ่อนไหว ปรารถนาการปลอบโยน คำปลอบใจ และท่าทีอ่อนหวานโดยเฉพาะเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก หากแต่เพราะข่อยอ่อนไหวจนเกินไป แม่จึงเลือกใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือ หมายมุ่งให้ข่อยสกัดกั้นความอ่อนไหวของตัวเองให้จงได้ผ่านแรงฟาดจากไม้แขวนเสื้อบ้าง บ้างก็ไม้กวาดทางมะพร้าว บ้างก็ไม้บรรทัดเหล็ก                                                                                  เมื่อเรามีภาษารักที่ไม่ตรงกันตั้งแต่แรก ไหนเลยจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ทุกอย่างย่ำแย่ลงทันใด ข่อยไม่สนิทใจกับแม่ ถึงจะพอรับรู้ได้ในหลายคราว่าเขาทำเพราะรัก ข่อยไม่สามารถสัมผัสสิ่งอยู่ในหัวใจแม่ได้เลย กลับกันแม่ก็คงไม่อาจสัมผัสถึงความรู้สึกภายในของข่อยได้เช่นเดียวกัน ณ เลขวัยที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปีมานี้ ข่อยได้ข้อคิดกับตัวเองว่า การที่เราพยายามรักษาความสัมพันธ์แม่-ลูกนี้ไว้ไม่ให้ขาดรุ่ยไปเสียก่อน แม้จะหมิ่นเหม่จวนเจียนจะขาดแหล่มิขาดแหล่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นแหละ คือความรักระหว่างเรา คือภาษารักระหว่างกัน ฉันในวัยนี้คงโตพอที่อยากจะพยายามเข้าใจภาษารักของแม่บ้าง แม้เพียงนิด ซึ่งอาจไม่เข้าใจเลยหรือเข้าใจเพียงสิบส่วนก็เหลือหลายให้ได้พออกพอใจเป็นแน่แล้ว              แม่หมอสะกิดข่อยว่าชาวมีนนั้นรักศิลปะเป็นหนักหนา อันตัวข่อยเองก็ชื่นชอบเสียด้วยสิ หวังว่าหากได้กลับมาใช้เวลาด้วยกันอีกครั้ง ข่อยก็อยากจะถ่ายทอดความหลงใหลในใจนี้ให้มันซึมถึงแม่ แม่จะสัมผัสมันได้ไหมนะ ภาษารักของข่อยจะส่งไปถึงเขามั้ย แต่ถ้าบ่ลองก็คงบ่มีทางรู้สินะ 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in