ในวันที่ฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจ และมนุษย์ที่สังคมไม่(ค่อยจะ)ยอมรับอย่างฉันก็ว้าวุ่นจนยากจะเก็บความฟุ้งซ่านนี้ไว้กับตัวเอง ดังนั้น หากจะไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปก็อยากจะขอบันทึกเรื่องราวที่ได้สนทนา(กับตนเอง)ไว้เป็นความทรงจำสักหน่อยก็แล้วกัน
ตั้งแต่เมื่อฉันลืมตาเป็นครั้งแรก หัดร้องไห้ก่อนร้องเพลง ใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กสาวผู้หนึ่ง กระทั่งอายุได้ครบแปดปีบริบูรณ์(หรือยังไม่ถึงก็ไม่อาจทราบแน่) ฉันปรากฎตัวภายในสถานที่แห่งหนึ่ง ข้างๆ กันมีกำแพงตั้งสูงตระหง่านคล้ายกับจะเป็นราวรั้วกั้นระหว่างโรงเรียนกับโรงพยาบาล ขณะที่กำลังก้าวเท้าอย่างเงียบเชียบตามทางเดินนั้น อยู่ๆ ความรู้สึกชิงชังต่อตัวเองอย่างอดสูก็สอดแทรกเข้ามาในมโนสำนึกราวกับกระแสลมเอื่อยๆ ที่แวะมาเมื่อครู่โน้มนำเอาความรู้สึกนี้มาฝากฝังไว้ด้วยโดยมิได้ตั้งใจ ภายในห้วงวินาทีนั้นตัวฉันรับรู้ถึงความเกลียดชังได้อย่างน่าใจหาย มันจริงซะจนย้อนกลับไปก็ยังตกใจว่าเด็กวัยนั้นจะสามาถติดหล่มมาตรฐานความงามได้อย่างไร และ.. ใช่ ฉันเกลียดตัวเองเพียงเพราะสำนึกได้ว่าฉันคือหนึ่งในคนที่เกิดมารูปร่างหน้าตาผิดเพก ไม่ใกล้เคียงกับความสวยของเหล่าสาวงามที่ปรากฎให้ยลโฉมบนจอแก้วเหล่านั้นเลย
จากตอนแรกที่เกลียดแค่รูปลักษณ์ของตนเพียงเท่านั้น หลังจากนวัตกรรมเริ่มก้าวไกล กล้องถ่ายภาพทั้งจากดิจิทัลเองและจากมือถือเองก็ตามที ถูกนำมาบันทึกความจริงแทนดวงตา บ้างก็เลือกสบตากันผ่านเลนส์มากกว่าจะคุ้นชินกับตาเนื้อ กลับยิ่งตอกย้ำว่าฉันขี้ริ้วขี้เหร่เกินกว่าจะทนมองมันได้ ความเกลียดเพียงแค่หน้าตาตัวเองก็เริ่มลุกลามไปจนถึงภาพถ่าย กล้องถ่ายรูป วีดีโอ สิ่งใดๆ ก็ตามแต่ที่ใบหน้าของฉันจะฝังสลักมันลงไปในนั้นได้ แม้กระทั่งเพียงไม่กี่วิผ่านกระจกเงา ฉันรังเกียจมันแทบทั้งหมด
ความรู้สึกเดียจฉันท์เติบโตไปพร้อมกับช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ในชีวิต ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎชัดในจิตใจของฉันจนหากจะเปรียบตัวเองเป็นประวัติศาสตร์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งในสมัย 500 ล้านปีก่อน ฉันคงจะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่หนักแน่นและชัดเจนเสียจนนักโบราณคดีไม่ต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพื่อยืนยันความจริงเหล่านั้นเลย เยาว์วัยที่ผ่านพ้นไปจนถึงช่วงชีวิตที่ต้อง(เริ่ม)นึกถึงอนาคต มันแนบสนิทกับตัวตนของฉันจนแทบจะเป็นก้อนเนื้อเดียวกัน เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนข้างบ้าน เป็นสิ่งที่ไม่อยากยอมรับแต่ก็ไม่อาจผลักไสได้โดยแท้จริง ถึงกระนั้น อยู่มาวันหนึ่งกลับมีแสงสว่างจุดประกายขึ้น ณ ที่แห่งหนึ่ง เป็นความจริงที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเคยปรากฎอยู่บนโลกใบนี้ และเป็นมนุษย์ที่ฉันไม่มีวันลืมได้เลย เพราะเป็นวันที่ฉันได้ค้นพบว่าซุปเปอร์เกิร์ลก็มีอยู่อีกคนนี่นา นอกจากแม่ของฉันเอง
ปล. ขอบคุณสำหรับความรักและหวังดีที่มีให้กันแม้ไม่ค่อยได้พบเจอหรือกล่าวทักทาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in