เริ่มแรกเลย เชื่อว่าหลายคนที่เข้าวงการนี้ จะต้องอึ้งกิมกี่กับข้อมูลมหาศาลที่มีให้เลือกอ่าน/ดูเยอะแยะไปหมด ลำพังแค่ Online websites ที่คนเขาแนะนำกัน เช่น Liz ielts, ielts advantage, และ E2 ielts ก็มีเยอะจนปวดลูกกะตาแล้ว นี่ยังไม่นับ Youtube videos ที่เขาทำแยกกันออกมาอีก
เราเป็นคนนึงที่ชอบจับปลาหลายมือมาก เน้นตามไปอ่านที่คนเขาแนะนำจากในทวิต แล้วก็พยายามเก็บให้ครบ จะได้รู้ลึกเหมือนสบายใจขึ้น แต่เอาจริง ๆ อยากบอกว่าวิธีนี้ไม่แนะนำ เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังทำให้ overwhelmed ได้ง่ายมากค่ะ เพราะถึงเราจะรู้รอบและได้หลายมุมเกี่ยวกับตัวข้อสอบก็จริง แต่ว่า tutor หรือ ex-examinee แต่ละคนก็จะมีเทคนิค กับ pattern การตอบข้อสอบที่ต่างกันไปในรายละเอียดค่ะ พอเราซึมซับของทุกคนแล้วมาสรุปเอง กลายเป็นข้อมูลตีกันในหัว ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี แล้วสุดท้ายก็ต้องมานั่งเทียบนั่งสรุปเองอยู่ดี ว่าของใครที่แนะนำเหมือนกันแล้วน่าจะยึดเป็นหลักตรงกลางได้ เรียกว่าหัวร้อนพอสมควรกว่าจะได้ข้อสรุป
ดังนั้น เราเลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้นำเสนอแหล่งที่เราใช้จดเทคนิคของตัวเองค่ะ ในพาร์ทนี้เราจะขอลงเป็นต้นคลิปในแต่ละ skill ก่อน เพื่อให้ทุกคนพอรู้เทคนิค และสกัดออกมาเป็น idea ของตัวเองนะคะ
ที่ยังไม่ลงของตัวเองเพียว ๆ เพราะไม่อยากเคลมว่าของเราจะเอาไปใช้ได้กับทุกคนค่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลองทำความเข้าใจด้วยตัวเองก่อน แล้วค่อยเอามาเทียบกับของเราในพาร์ทถัดไปนะคะ จะได้ฟีลเหมือนแลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ
✯ ปล. อาจจะไม่ได้ลงครบทุกคลิปนะคะ ขอเน้นอันสำคัญ ๆ แล้วให้ทุกคนไปขุดต่อตาม channel หรือ source ที่เราแปะไว้แทนค่ะ
เปิดมาแหล่งเรียนรู้แรกของเราคือ YT Channel IELTS Advantage ค่ะ เชื่อว่าคนในวงการนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ ซึ่งก็ดีสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ สำหรับคุณพี่ Christ เรายกให้เป็นหนึ่งในคนที่อธิบาย IELTS ได้เข้าใจง่าย ละเอียดและตรงประเด็นมาก สำเนียงก็ฟังแล้วสบายหู ไม่เร็วเกินไป และให้ lesson ที่ straightforward และ practical เหมาะกับคนที่อยากได้เทคนิคแบบค่อยเป็นค่อยไป ทีละ step ค่ะ
ถ้าใครขี้เกียจมากจริง ๆ แบบไม่อยากฟังที่อื่นแล้ว แนะนำให้ลองซื้อคอร์สของเขาเป็น VIP 3.0 (Link ด้านล่าง) เราเคยซื้อคอร์สเน้น writing ไปช่วงลดราคา (จะได้ทุก skill ยกเว้น speaking ตกประมาณพันกว่าบาท) จะบอกว่าเขาจะแยกสอนเรียงลำดับไปทีละคลิปแบบดีมาก แล้วมี emotional guide ให้ด้วยว่าควรวางจิตวางใจยังไงก่อนสอบ แล้วท้ายคลิปก็จะมีแบบทดสอบวัดความเข้าใจให้ด้วย ส่วนตัวเรายึดทริค Do & Don't ของเขาเป็นหลัก คือรู้สึกว่าคุ้มที่สุดในบรรดาทุกช่องที่ตามมาแล้ว
แต่ถ้าใครที่ไม่อยาก (อาจจะด้วยราคา---ซึ่งถ้าไม่ลดเราก็คงไม่ซื้อ😅) ก็หาคลิปฟรีใน channel เขาได้ค่ะ
อ้อ อีกอย่างนึงคือ ถึงทุกคลิปพี่เขาจะชอบเขียนพาดหัว Band 9 ยังกะเหมือนให้มหาเทพมาส่องเท่านั้น แต่จริง ๆ เนื้อหาในคลิปก็เป็นเทคนิคพื้นบ้านที่คนเดินดิน (หวังแค่ผ่าน 6.5) อย่างเราเก็บไปใช้ได้ค่ะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เพราะฉะนั้นลองเปิดใจดูนะคะ
[Link to VIP 3.0 Course: https://www.ieltsadvantage.com/vip2-discount/?utm_source=youtube&utm_medium=organic&utm_campaign=the_only_ielts_reading_strategy_you_need_in_2025&utm_content=yt_video_description&utm_term=6092024]
มาต่อกันที่ช่อง Lilie IELTS เรามาเจอเขาโดยบังเอิญค่ะ แต่ก็เป็นอีกช่องที่ช่วยได้มากเลยตอนทำข้อสอบ
สำหรับเจ๊คนนี้ เขาจะสอนแต่เทคนิค ไม่มี Do&Don't หรือ Common mistakes เหมือนกับคลิปของคุณคนก่อน จะเน้นบอกวิธีที่ใช้ทำในข้อสอบไปเลย แล้วก็ตอนท้ายจะแถมวิธีพัฒนาทักษะ listening ให้ด้วย ว่าควรฟัง podcasts บ่อย ๆ นะอะไรแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าเอาไปใช้ได้ดีเลยค่ะ (แม้ว่าเราจะขี้เกียจฟัง podcasts ตามแบบคุณพี่เขาก็ตาม 555+)
แต่ ๆ ๆ ถ้าใครที่ follow คลิปด้านบนแล้วทำคำถามทั้ง 3 part เกิน 60 นาที ให้มาต่อที่เจ๊คนนี้ค่ะ คงคอนเซปเดิมคือไม่เน้นสอนลงเนื้อหา (มีแต่อยู่ในคลิปอื่น) แต่เน้นว่าทำยังไงให้ทำพาร์ทอ่านให้ได้เร็วและทันเวลาค่ะ ซึ่งนั่นก็คือการทำ "พร้อม ๆ กัน" ในทุก Sub questions อันนี้เราแอบคิดว่าควรจะชินกับ Q.types มาแล้วระดับนึงและ build speed การอ่านได้พอสมควร ถึงจะลองทำแบบเจ๊เขาได้ แต่ทั้งนี้แล้วแต่ความถนัดและความชอบส่วนตัวค่ะ
เกริ่นก่อนว่าทั้ง Writing กับ Speaking เป็นอะไรที่อาศัย Output หรือดึงข้อมูลออกมาเยอะมากค่ะ การจำเทคนิคจะต่างกับสองพาร์ทบนค่อนข้างเยอะ อย่าง Writing Task 2 ที่เป็นเขียน Essay ก็จะต้องโฟกัสทั้งในเรื่อง 1) topics ที่จะมีรวมกันได้ถึง 20 ประเภท และ 2) รูปแบบของคำถามใน essay 5 ประเภท
ดังนั้นสำหรับเรา การฝึกฝนพาร์ทนี้มันจะไม่ใช่ step แบบเดียวกับ 2 skills แรก (จำ Technique > ฝึกทำข้อสอบ > จดข้อผิดพลาด > ทบทวนแล้วทำข้อสอบใหม่) แต่มันเป็นลักษณะประมาณนี้ค่ะ 👇🏻👇🏻👇🏻
1) เข้าใจประเภทข้อสอบ requirement / word count / หัวข้อต่าง ๆ ที่จะเจอ (ลองดูในเว็บด้านล่างนี้ค่ะ)
📍ในส่วนนี้จะรวมไปถึงต้องรู้ด้วยว่าพาร์ทเขียนเขาคาดหวังให้เรา paraphrase คำถามให้ได้ในส่วน Introduction และการใช้คำซ้ำ (Synonym) ทั้ง report / essay ไม่ควรเกิน 3-4 ครั้ง ยกเว้นจะเป็นคำที่ไม่สามารถหาคำอื่นมาแทนได้จริง ๆ (Dead word) โดยในส่วนของการใช้ Grammar ถ้าอยากได้ band สูงหน่อย ต้องใช้แต่ Complex Sentence และ Complex-Compound Sentence เท่านั้น ประมาณนี้ค่ะ (ไม่ต้องห่วงนะคะ รายละเอียดปลีกย่อยตรงนี้ จะสรุปไว้ให้ในหน้าถัดไปค่ะ)
👉🏻 https://ieltsliz.com/ielts-writing-task-1-lessons-and-tips/
👉🏻 https://ieltsliz.com/ielts-writing-task-2/
2) เข้าไปศึกษาตัวอย่าง Report / Essay Band 8-9 เพื่อดึง structure และหาประโยคสวย ๆ ในการขึ้นต้นแต่ละ Essay type ออกมา
📍ย้ำนะคะว่าจะต้องรู้ structure ในการเขียนแต่ละ essay type จริง ๆ ยกเว้นสำหรับคนที่ beyond แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งก็ได้ค่ะ แต่เท่าที่เราอ่านมา essay samples band สูง ๆ ของทุกเว็บก็ล้วนแล้วแต่มี pattern ที่ชัดเจนค่ะ มีโครงย่อมทำให้เราจัดเรียงข้อมูลที่จะเขียนได้ง่ายขึ้น และทำให้คำตอบไม่หลงประเด็นด้วยค่ะ ฉะนั้นย้ำอีกทีว่า step นี้ข้ามไม่ได้นะคะ และสำหรับเรา เว็บพี่คริสดีที่สุดในแง่การให้ phrase ขึ้นต้นพารากราฟค่ะ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เข้าไปอ่านให้ครบทุกตัวอย่างเลยค่ะ
📍ถ้าลองไล่ดู จะรู้ค่ะว่าทุก Essay เขามี Writing Structure เหมือนกันค่ะ หรือจะดูสรุปในคลิปพวกนี้ก็ได้ค่ะ
👉🏻 https://youtu.be/yvt8RzGNhBc?si=4PhCZLDjGk5npHFS
👉🏻 https://youtu.be/_EKODdnjUK0?si=ZMhPgE99UhMfnWkQ
Essay / Report Samples
👉🏻 https://www.ieltsadvantage.com/writing-task-1/
👉🏻 https://www.ieltsadvantage.com/2023/01/15/ielts-writing-task-2-sample-essays/
3) ลองออก idea ว่าถ้าเป็นเราเจอคำถามนี้จะตอบยังไง ลองร่างคำตอบของตัวเองออกมาดูก่อน (จะเป็นไทย-อิ๊งก็ได้)
ตัวอย่าง Task 1
ตัวอย่าง Task 2
4) เทียบกับตัวอย่าง Report / Essay band 9 แล้วแยกส่วนวิเคราะห์
📍ในการวิเคราะห์อาจดูเรื่องของ 1) De-structure หา PEE ของเขาใน Body 2) Linking words 3) Grammar structure และ 4) Useful Vocab and Phrases เพื่อหาศัพท์และข้อความสำเร็จรูปมาใช้กับของเราค่ะ แต่ข้อควรระวังเวลา copy คือ อย่าก๊อปศัพท์หรือประโยคที่คิดว่ายากเกินระดับของตัวเองเกินไปนะคะ ถ้าลองเอามาใช้แล้วมัน beyond เกินกว่าภาษาของเรา อาจจะทำให้ทั้งประโยคไม่ธรรมชาติ แล้วคนตรวจจะดูออกว่าเราลอกมาทื่อ ๆ โดนหักคะแนนได้ค่ะ
📍นอกจาก Essay samples ของ IELTS Advantage ที่เราแปะไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว แหล่งที่คิดว่าน่าเชื่อถืออีกก็จะมีประมาณนี้ค่ะ (หน้าเพจที่เราแปะหลัก ๆ เป็น task 2 แต่ Task 1 ก็อยู่ในเว็บเดียวกันค่ะ)
👉🏻 https://howtodoielts.com/recent-ielts-writing-topics-2022/#google_vignette
👉🏻 https://engnovate.com/blog/ (เข้าไปที่ IELTS Band 9 Samples)
👉🏻 https://ieltsliz.com/ielts-writing-task-1-lessons-and-tips/
Website หา Vocab+Synonym
👉🏻 https://ieltsliz.com/vocabulary/
👉🏻 https://www.wordhippo.com/what-is/another-word-for/serious.html
5) ฝึกเขียนตาม Topic หรือ Essay Types
📍อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะว่าอยากฝึกเริ่มจากอะไร แต่ส่วนตัวเราชอบฝึกตามประเภทของแต่ละ Essay ก่อน พอจำ structure ได้แม่นแล้ว ก็ค่อยขยับไปฝึกเป็น Topic ไป เช่น เรื่อง education ก็ฝึกรวมเลยไม่ว่าจะเป็น opinion หรือ discussion essay แบบนี้
📍แหล่งที่เราแนะนำตรวจ Essay มี Engnovate กับ Chat GPTค่ะ
➤ สำหรับเว็บแรกจะจำกัดการตรวจสำหรับ free user (แนะนำให้ซื้อค่ะ คุ้มจริง ๆ) และการตรวจจะค่อนข้างกดคะแนน กับอิหยังวะในบางจุด (เช่น ตอนแรกมันให้เรา 7 แต่พอเราลอง polish หรือแก้แค่ grammar ตามที่มันบอกซัก 4 จุด มันขึ้นไป 8 เลยค่ะ งง555+)
➤ ส่วน Chat GPT เราคิดว่าค่อนข้างเสถียรและตรงกว่า แต่บางทีมันจะไม่แก้เฉพาะจุดให้เราค่ะ มันเปลี่ยนให้ทั้งบทความเฉย ทางที่ดีต้องกำกับไว้ด้วยว่าให้ correct only grammar mistakes แต่ข้อดีของมันคือ สามารถช่วย generate idea ก่อนเขียนได้ดีมาก ๆ แล้วก็เวลาขอให้มัน evaluate and polish essay ให้ ก็จะได้ประโยคดี ๆ กลับมาใช้เยอะเลย ดีกว่าไป copy ประโยคของ essay samples เว็บอื่นด้วย เพราะอันนี้เขาพัฒนามาจาก orginal essay ของเราเอง
สกิลนี้เป็นอะไรที่เราฝึกน้อยมากค่ะ เลยอาจจะมีแหล่งแนะนำได้ไม่เยอะและไม่ได้มี step ฝึกจริงจังเหมือน Writing ด้วย แต่ส่วนตัวเราดูตามช่องของคลิปข้างล่างนี้เป็นหลักค่ะ
ของคุณ Simon เอาไว้เรียนไว้รู้ตั้งแต่ step แรกเลยค่ะ เขาเรียบเรียงไว้เป็นบท ๆ ตั้งแต่ Part 1 - 3 แล้วก็ให้ idea ในการพูด Topic ต่าง ๆ ด้วย เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัยมาก
ช่อง Fastrack IELTS ส่วนตัวเราดูไว้จำประโยคสำเร็จรูปเอาไว้พูดตอนคิดไม่ออกค่ะ เห็นว่ามีอีกหลายคลิปที่มีประโยชน์ แต่ทางนี้ดูไม่ครบ 555+ ใครมีเวลาเก็บศัพท์ไปเรื่อย ๆ นะคะ อย่าทำแบบเรา
ช่องคุณพี่คริส เราเอาไว้ดูตัวอย่างค่ะ เท่าที่ไล่ดูมาของช่องอื่น รู้สึกว่าอันนี้เป็น simulation test ที่สบายหูสบายตาแล้วก็ natural ที่สุดแล้ว เพราะคนสอบก็ไม่ได้พูดน้ำไหลไฟดับขนาดฟังไม่ออก (มันจะมีช่องเวียดนามอันนึงพูดไวมากกก น่าจะได้ BAND 9.5 //ห้ะ) หรือว่าใช้คำอลังการในทุกคำตอบค่ะ บางข้อคำตอบก็ธรรมดาแบบที่เราก็เอาไปใช้ได้ แต่สิ่งที่จะได้เรียนรู้จากคนสอบทุกคนจะเป็น flow ในการตอบว่าแต่ละ Part เขา expect ให้เราตอบไปในทิศทางไหน ควรตอบมากน้อยแค่ไหน อะไรแบบนี้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วสำหรับ Part 2 ค่า ต้องขอเน้นย้ำอีกครั้งนะคะว่าคลิปกับเว็บไซต์ที่เราลงในนี้ เป็นเพียงแหล่งที่เราคิดว่าเวิร์คจากที่ไปดูมาหลาย ๆ เจ้า ไม่ได้จำเป็นว่าจำต้องดูแค่ของเราเท่านั้นค่ะ ดังนั้นถ้ามีเวลา สนับสนุนให้เพื่อน ๆ ลองไปค้นคว้าหาแหล่งอื่นเพิ่มเติมเผื่อเจออันที่ถูกโฉลกกับตัวเองมากกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตัวเราเองเท่านั้นค่ะที่จะรู้ว่าเราเหมาะกับอะไร
ยังไงก็หวังว่าจะโพสต์เป็นประโยชน์นะคะ ในส่วนต่อไปจะเป็นสรุปของเรา แหล่งฝึกทำข้อสอบ และแถมแหล่งที่เราใช้ predict คำถามค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปต่อกันเลยยย...🏃🏻♀️➡️
(ขอสารภาพว่าส่วนนี้เราไม่มีสรุปของ Writing Task 1 นะคะ เราเน้นดูยูทูปแล้วเขียน ๆ เอาเลย เราไม่ถนัดมาก ๆ กับตัวเลขอยู่แล้ว และตอนทำจริงก็จำได้ว่าบ้ง เพราะรีบไปทำ Task 2 กลัวเวลาหมด555+ คะแนนที่ได้มาเลยน่าจะสะท้อนตัว Essay task 2 มากกว่า😂 )
สำหรับการเขียน อยากบอกว่าเป็นสกิลที่เราก็ไม่มั่นใจเหมือนกันค่ะ เพราะแทบไม่ได้เขียนบทความเป็นอิ๊งเลย แต่คะแนนได้มาเกินคาดมาก ๆ เลยคิดว่าแนวทางของเราน่าจะพอปรับใช้กับทุกคนได้อยู่นะ
ก่อนอื่นเลย เราฝึกจากการ paraphrase introduction เยอะ ๆ ค่ะ ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาเรื่องออก idea แต่มีปัญหาเวลานึกประโยค เป็นคนนึกนานมากกว่าจะได้ออกมา ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะเราไม่มีคลังศัพท์กับประโยคที่เราคุ้นเคยเป็นภาษาอังกฤษในหัวค่ะ เลยนึกไม่ออกว่าควรจะใช้คำไหน ดังนั้น การพยายามอ่านเยอะ ๆ ลองดูตัวอย่างการ paraphrase ของชาวบ้านตามเว็บต่าง ๆ ก็ทำให้พอจะได้ pattern มาบ้าง และนึกออกว่าสมมติเจอรูปประโยคแบบนี้ควรจะเขียนเป็นอิ๊งว่าอะไรค่ะ
พอเราเริ่มมีความมั่นใจ เขียนขึ้นต้น Essay ได้แล้ว ก็แค่ทำขั้นตอนเดิมกับ Body ค่ะ ดูตัวอย่างชาวบ้านบ้าง + ลองเขียนออกมาก่อน แล้วเอาเข้า Chat GPT ในขั้นนี้เรายังไม่จับเวลาตัวเองค่ะ แค่หวังให้เขียนออกมาได้ครบทุก structure ก็พอแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ speed การเขียนเราเพิ่มขึ้นก็ค่อยจับเวลาได้ค่ะ
ทั้งนี้ สำหรับลำดับการฝึก Essay ของเรา จะแบ่งตามประเภทของ Topic กับ Essay Question นะคะ เราแปะ Template เอาไว้ให้ด้านล่างนี้แล้วค่ะ และแน่นอนว่าด้วยความที่ Topic ielts มันก็เยอะมากครอบจักรวาลตั้งกะปัญหาครอบครัวยันรัฐบาล เลยยากที่จะทำได้ครบทุกข้อ เทคนิคที่อยากฝากเลยคือ ให้เลือกทำเฉพาะข้อที่คิดว่าเอาคำตอบไป adapt ได้หลายหัวข้อค่ะ
My Notes
https://docs.google.com/document/d/1QBKlQF8X8qjyA2s2TBfJNV1uw8bjTxa0RcJvyLCAOhM/edit?tab=t.0
Forecast
🌟ปกติแล้ว หัวข้อ writing เดายากมากกก สิ่งเดียวที่รู้คือในแต่ละ topic เขาจะออกคำถามซ้ำ ๆ กันค่ะ แค่เปลี่ยนจาก opinion เป็น discussion บ้าง advantage บ้าง ดังนั้นแนะนำให้หาหัวข้อที่เพิ่งออกในปีเดียวกันมาลองทำดูค่ะ สำหรับแหล่งหาข้อสอบอัพเดทล่าสุดของเราก็มีประมาณนี้เลย
👉🏻 https://ieltscity.vn/de-thi-ielts-writing-2025/
👉🏻 IELTS Prep Writing 2025 (app)
🌟แนวโน้ม Question type จะเรียงจากมากไปน้อยเป็น Opinion > Discussion > Advantage & Disadvantage > Problem-cause Solution ค่ะ ส่วนประเภท Direct question หรือ Mix นี่โอกาสเจอต่ำสุดค่ะ ต้องดวงตกจริง ๆ ถึงจะได้(?) โฮ ๆ ๆ
💫 แต่ถึงพูดแบบนั้น ก็ยังคิดว่าทุกคนควรจะเน้น fluency และ confidence ไว้ตอนพูดค่ะ เราเลือกไม่ได้ว่า Examiner เป็นใครก็จริง แต่เราควบคุมตัวเองให้ calm and composed ได้ เน้นตอบให้ตรงประเด็นก่อนเลย (เผื่อเจอคนชอบช็อตแบบเรา) แล้วปล่อยให้อะไรที่เข้ามาในหัวมันไหลไปค่ะ overexplaining everything เอาไว้ ตามคติ "อย่าหยุดพูด ใครหยุดก่อนคนนั้นแพ้" (เราพกคำนี้เข้าห้องสอบไปแล้วได้ผล พูดไม่หยุดเลย55555+)
💫 Speaking = Acting เพราะการพูดคือการละคร ไม่จำเป็นต้องตอบตามจริงค่ะ เน้นหยิบ vocab สวยและเรานึกออกในตอนนั้นพอ เวลาคิดจริง ๆ มันน้อยมากต่อข้อ ไม่เกิน 3 วิเลยค่ะ และเอาเข้าจริง Part 1 อย่าตอบยาวนะคะ หลายคลิปตัวอย่างใน YT ยาวมาก และ Examiner calm มาก คือเราไม่รู้ว่า case แบบนี้มีเยอะแค่ไหน แต่ถ้าเป็นไปได้พยายาม concise ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ จะได้มีเวลาเผื่อไว้ตอบ Part 3 เยอะ ๆ เพราะน้ำหนักคะแนนมันอยู่พาร์ทหลังหมดค่ะ
💫 ว่าด้วยเวลา พยายามเลือกสอบเป็นคิวแรก ๆ นะคะ ภายใน 1 ชั่วโมงแรกจะดีมาก ถ้าเกินกว่านี้ มีโอกาสที่ Examiner เขาจะรมบ่จอยแล้ว เพราะต้องมานั่งฟังคนพูดเป็นสิบ ๆ ค่ะ และถ้ามีเวลาเว้นตอนเที่ยง แนะนำให้หาอะไรทานเบา ๆ พออิ่มท้องแต่ไม่มากนะคะ ไม่งั้นมีจุกอกจุกคอตอนสอบได้😂
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก็จบลงไปแล้วนะคะกับ Vlog "IELTS The Survival Guide: คัมภีร์ไอเอลฉบับคนขี้เหนียว" นี่เป็น Vlog แรกของเรา รวมถึงเป็นครั้งแรกในการลองสอบ IELTS ของเราด้วย ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนที่ผิดพลาดไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ยังไงเพื่อน ๆ สามารถแย้งหรือชี้แนะได้เต็มที่เลยค่ะ
ขอย้ำอีกครั้งว่าเอกสาร เว็บไซต์ และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้รวบรวมไว้ ณ ที่นี้ มาจากประสบการณ์ ความชอบของเราเองล้วน ๆ หากเพื่อน ๆ ลองอ่านและนำไปปรับใช้ตามแล้วรู้สึกไม่เวิร์ค ก็ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่ง แต่แปลว่าเรามีความถนัดที่ต่างกันไปเท่านั้นเองค่ะ จุดประสงค์หลักที่เราเขียน Vlog นี้ขึ้นมาก็คืออยากจะแบ่งปันมุมมองความรู้ที่เราสั่งสมมาและแบ่งเบาภาระของเพื่อนร่วมเดินทางทุกท่าน ไม่ใช่เพื่อมา discredit ช่องทางใดช่องทางหนึ่งหรือวิธีการของใครทั้งนั้นนะคะ
สุดท้ายนี้ เราหวังว่า Vlog นี้จะเป็นเหมือนดอกไม้ริมทางที่ช่วยให้คนที่พบผ่านได้เบาใจลง หรือเป็นเสมือนบันไดขั้นหนึ่งที่ทำให้ทุกคนได้ปีนขึ้นไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นนะคะ ขอให้คนที่เข้ามาอ่านทุกคนโชคดีในการสอบ IELTS และได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้ค่ะ วันไหนที่ท้อก็ขอให้รับรู้ไว้ว่าคุณไม่ได้เหนื่อยอยู่คนเดียวค่ะ ท้ายที่สุดแล้ว ความพยายามนี้จะต้องให้อะไรเรากลับมาอย่างแน่นอน
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่ ใน Vlog ถัดไปค่ะ 👋🏻
Best of Luck to everyone
ーLadyMinjee
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in