You are the lost treasure that I've been looking for, You are scent of summer 🧡
แสงแดดอบอุ่นแสบผิวจนไหม้ ฤดูร้อนในเดือนมีนาคม กับ ผู้คนหน้าใหม่ที่กระตุ้นความทรงจำส่วนลึก เหมือนเคยสัมผัสมาก่อนแต่นมนาน อยู่ดีดีมันก็ทำให้ตกหลุมรักใครสักคนง่ายง่าย ทั้งที่ก่อนหน้ายังมัวเมากับเกมส์นิยาย AI หรือหนุ่มในโลกจินตนาการ ดารา นักร้องศิลปินที่ชื่นชม พอเห็นชุดนักเรียนชายมัธยมปลายสีขาวสะอาด ท่าทางขี้เล่น มืออยู่ไม่สุขของการเดินวุ่นไปทั่วทุกที่ ทำให้ฉันอดขำไม่ได้ "ฉันก็เคยและยังคงมีความเป็นเด็ก" แบบเด็กชายคนนั้นนั่นแหละ ทั้งที่เราสองคนแทบไม่ค่อยคุยกัน เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง เธอมาฝึกงานกับทางโรงเรียน ต้องยืนเฝ้าหน้าบ้าน ถือพัด คอยทักทายผู้คน แต่พอเธอเบื่อ..เธอจะเดินมากับความงุ่นง่าน สงสัย ใคร่รู้ ที่แน่นอนคือ หิวแหละ555 "ขอชิมหน่อยได้มั้ย" ฉันที่ขายของจากทางฟาร์ม มักจะมีตัวชิมสินค้าไว้ให้ลูกค้าหรือแม้กระทั่งเพื่อนพนักงานด้วยกันเสมอ บวกกับเห็นใครขออะไรก็ไม่เกี่ยงที่จะปฏิเสธ และ ใจดีกลับไป นิสัยแม่ค้าชอบ นำเสนอก็แสดงผลทันใด แต่บอกตามตรงน่าจะเพราะเธอเด็กกว่าฉันมากถึงเก้าปี มันคือความเอ็นดูมากกว่า พอทำแบบนี้นานเข้า ฉันก็เริ่มเล่าเรื่องของที่ขาย ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เล่าที่มาที่ไปของงาน แต่ก็ไม่ได้เยอะจนเธอรับไม่ไหว เธอเป็นคนตั้งใจฟัง แค่ขาดสมาธิ ชอบหาอะไรทำเป็นเล่นไปเรื่อย เดี๋ยวก็เอาขวดกระบอกน้ำจิ๋วที่สเปรย์เย็นหมดแล้วมาใส่น้ำฉีดไปทั่ว จนบางทีก็อดแซวไม่ได้ว่า "น่าจะสมัครเป็นผู้ช่วยพ่อบ้าน เปลี่ยนต้นไม้ รดน้ำได้แล้วกระมัง" ทุกท่าทางเปิ่นฮา ต๊องบ๊อง ของเธอ ทำให้ฉันชอบมองดูและสังเกตเธออยู่ห่างห่าง รู้ตัวอีกทีก็วันสุดท้ายที่เธอฝึกงานแล้ว วันนั้นเป็นวันครบรอบวันเกิดของเจ้าของบ้านที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย เรามีพิธีทำบุญพราหมณ์กัน แต่เช้า อย่างที่รู้กันพิธีแบบนี้นอกจากเสียงมนต์ขลังอย่างแตรสังข์ บทสวดที่ก้องกังวาน สำคัญรองลงมา ไม่แพ้กัน คือ ของมาไหว้อันละลานตา มีตั้งแต่ขนมโบราณ ผลไม้ดิบสุก ดอกไม้โปรยประดับ เนยสด มันก็ดูเป็นการส่งท้ายจบฝึกงานของเธอได้ดีเลยใช่ไหม แต่เรื่องนี้มันเป็นความแอบแฝงโดยไม่ได้ตั้งใจหรือรู้ตัว..พอจบพิธี ทุกคนต่างยื้อแย่ง กอบโกยของกินมงคลที่ผ่านการถวาย รวมถึงตัวฉันที่คว้าได้ บางส่วน มีน้องไกด์คนหนึ่งอยากได้กล้วยหวีหนึ่งไปทำขนม ด้วยความที่ร้านฟาร์มตั้งอยู่ใกล้โต๊ะทำพิธี จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ฉันจะคว้าตามใจต้องการ หากไม่ถูกจองไปก่อน และเธอก็เป็นเด็กผู้ชาย ที่อยู่ท่ามกลางประชากรผู้หญิงทั้งหลาย ฉันเลยขอร้องให้เธอช่วยหยิบกล้วยหวีหนึ่งให้หน่อย ความเผลอตัวเลยเอามือแตะไหล่เธอ "หยิบกล้วยหวีนั้นให้หน่อยสิ.." เส้นประสาทภายในเหมือนไฟฟ้าช็อต ใจที่สั่นระรัวดั่งกลอง หน้าร้อนผ่าว ทำเอาเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานสามสี่ปี นี่หรือฉันจะปลื้มเธอเข้าให้แล้ว ปลื้มอะไรตรงไหน เอาปากกามาวงซิ?! เธอใจดีเข้าไปในไทยมุง ก่อนจะยื่นผลไม้มาให้ฉัน มันเป็นความรู้สึกที่ว่า นี่ฉันเป็นอะไรกันเนี่ย 😲 หรือเป็นเพราะว่าช่วงนี้ฉันขาดน้ำตาลในชีิวิตไป การชอบใครสักคนเลยเข้ามาให้เหนื่อยเล่นซะแล้ว แต่มันแค่ชั่ววูบ จนกระทั่งถึงตอนเย็น..กำลังจะถึงเวลาปิดร้านฟาร์ม ทางบ้านเรา..หากมีใครสักคนต้องออกจากงานหรือจบการฝึก มันคือเรื่องธรรมดา ที่จะมอบของที่ระลึกถ่ายรูป พูดคุยส่งท้าย โดยฝ่ายพนักงานต้อนรับหรือรีเซ็ปชั่นต้องได้ก่อนอยู่แล้ว เพราะช่วยสอนและให้เธอเรียนรู้เนื้อหางาน หลังจากจบพิธีถ่ายรูป ก็พูดคุยจิปาถะไปเรื่อย จำไม่ได้ว่าทำไมเธอและน้องผู้หญิงฝึกงานถึงเดินมาแถวร้านฟาร์มของฉัน ละด้วยความเซอร์ไพรส์ของฉันเอง ฉันซื้อข้าวแต๋นรสวาซาบิที่เธอชอบที่สุดให้ จนมีน้องไกด์ภาษาอังกฤษแซวว่า "พี่เขาสายเปย์นะ ขออะไรให้หมดเลย" ซึ่งมันก็ค่อนข้างจริง ฉันชอบใคร ฉันมักให้คนอื่นโดยไม่ได้หวังอะไรกลับมาเสมอ จนแปลกใจตัวเองว่านิสัยแบบนี้มันดีแล้วใช่มั้ยนะ แค่ขอให้คนที่เราชื่นชม ใจดีด้วย..มีความสุขจากสิ่งที่เราทำให้ก็พอ ละจำได้ว่าก่อนหกโมงเย็น เธอเดินคุยเล่นกับคนนู้นคนนั้นคนโน้นไปเรื่อย ก่อนจะไล่ขอติดตามไอจีทุกคนในบ้าน ฉันหยิบมือถือของเธอ ก่อนจะพิมพ์ชื่อไอจีตัวเองไป แล้วกดฟอลให้เอง รับเอง คิดแล้ว ก็ตลกดี (ทำไงได้เราจะได้คุยกันสักที..) เพราะจำว่าหลังจากนั้น..เราสองคนก็คุยกันไม่หยุด โดยมีฉันที่เปิดประเด็นเรื่องคณะมหาลัยในอนาคตที่เธอออยากเข้า เธออยากเข้ามหาลัยเดียวกันกับ ที่ฉันจบมา เธอดูออกว่าคนอย่างฉันน่าจะชอบดูการ์ตูน มีอะไรมากมายที่ดูไม่อยากให้จบลงด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นความรู้สึกที่มันกำลังจะจุดประกายฉันในภายภาคหน้านี่แหละ ตัวฉันที่อยากสัมผัสอีกครั้ง.. ที่เห็นในความเป็นเธอ..ผ่านไปสิบกว่าวัน หลังเธอฝึกจบไป ความวุ่นวายก็ก่อขึ้นในใจ ฉันบอกกับเพื่อนสนิทของฉันเป็นครั้งแรก หลังจากเก็บมันมาโดยตลอด "แพรชอบน้องเขาว่ะ" จำได้ว่าวันนั้น เป็นปลายเดือนมีนาคมที่ออกไปฮีลใจ เดินเล่นสวนสาธารณะในเมืองกรุง 'ก็ทักไปว่า สวัสดีค่ะ สบายดีมั้ยช่วงนี้' คำตอบที่ง่ายดายของเพื่อนสาว ทำเอาใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ใช่ไม่เคยทักหาใครก่อน แต่นี่มันคนที่ชอบนะ แถมอายุน้อยกว่าตั้งหลายปี เธอจะรู้สึกมั้ยว่า..พี่คนนี้มันทักมาทำไม 555.. ฉันใช้เวลารวบรวมความกล้าหลายวันพอควรหลังบทสนทนาชั่งใจกับเพื่อนสนิทในวันนั้น ฉันก็ทักแชทไอจีไปตามที่เพื่อนแนะนำ..คำตอบก็คือ เธอตอบกลับมาน่ารักมาก มันเป็นช่วงระหว่างปิดเทอมก่อนขึ้นระดับชั้นใหม่พอดี ดูจากความว่างและชิลของเด็กผู้ชายคงเป็นแบบนั้น "สบายดีค้าบ ดูยูทูปฉ่ำเลย" ทำเอาฉันอดยิ้มไม่ได้ในความมุ้งมิ้งนี้ ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำจะเป็นการทำความรู้จักเธอ ฉันพอเดาได้ว่าบุคลิกแบบเธอน่าจะเป็นคนตั้งใจเรียน หรือ ติดบ้าน ฉันเลยหาเรื่องคุยต่อยอด ถามถึงช่องยูทูปที่เธอชอบดู ละก็เดาไม่ผิด เธอมันสายวิชาการ LOL ดูช่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยดูกัน เช่น เศรษฐกิจการตลาดลงทุน แถมเป็นภาษาอังกฤษด้วย ดีนะที่ตัวฉันเองก็ชอบอะไรที่เนิร์ดพอกัน แม้จะไม่ค่อยดูบ่อยก็ตาม จึงแลกเปลี่ยนช่องที่ฉันเคยพบไปให้ ละบทสนทนาก็เริ่มไหลไปเรื่อย ฉันชอบพูดเลยคุยเปื่อย พิมพ์กับเธอทุกนาที ตั้งแต่เรื่องภาษาอังกฤษ ทำไมอยากเข้ามหาลัยที่ฉันจบ แต่บทสนทนาก็มีความตันได้ตลอด ฉันสังเกตการพิมพ์ของเราต่างกัน ฉันเป็นคนพิมพ์ยาว เธอเป็นคนพิมพ์สั้น ฉันเลยหาทางที่จะรู้จักเธอให้มากขึ้น คือ การเล่นเกมส์จิตวิทยา เขาบอกว่า การจะเข้าใจตัวตนของคนหนึ่งได้ดี คือ การถามเรื่องจิตใจ เธอบอกว่า "เกมส์จิตวิทยาคืออะไร" ทำเอาฉันงงไก่ตาแตก ใช้ชีวิตมาตั้งสิบกว่าปี นี่เธอไม่เคยเล่นอะไรจริงรึ ละฉันก็โยนคำถามเปรียบเปรยให้เธอเล่น เราคุยกันทุกวัน ด้วยเกมส์คำถามสิบห้าข้อ ที่ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไร หลายคำถามทำให้ฉันค้นพบมุมมองเกี่ยวกับตัวเธอหลายอย่าง เช่น เธอเป็นคนมีอีโก้สูง เธอเป็นคนอ่อนโยนแต่หาใช่จะสุภาพ แม้ที่จริงแล้วเธอก็สุภาพอยู่แล้ว :P เธอชอบทานของจืด แถมไม่กล้ากินพวกของคาเฟอีน เพราะกลัวนอนไม่ได้ ที่รู้กว่านั้นคือเธอชอบเล่นอีโมติคอนหรืออีโมจิหนักมาก จนฉันนึกสงสัยว่า..เด็กรุ่นเธอสื่อทุกอย่างจนทำให้มันหวั่นไหวแบบนี้เลยหรือเปล่านะ?..ทุกวันคือสนามของคนเหงาสองคน ฉันเริ่มคาดหวังและความกล้าก็มากขึ้นทุกวัน พอเกมส์จบลง บทสนทนามาถึงทางตันอีกรอบ ฉันรักษาความพยายามของตนเองด้วยการถามเดาว่าเธอน่าจะชอบอ่านหนังสือประเภทนี้ แล้วด้วยวัยเรียน ฉันก็หาทุนแนะนำเธอไป ฉันกำลังตกหลุมรักความเป็นเด็กและความมุ่งมั่นในความฝันของเธอ ความรู้สึกของฉันมันเข้มข้นขึ้น เราเริ่มแลกเปลี่ยนแนวเพลง เธอแชร์รูปภาพว่าทำอะไร ฉันส่งของฉันไปบ้าง ฉันจะสอบ เธอก็จะสอบ ต่างคนต่างคุยกันไม่เว้นห่าง แม้จะตอบช้า หรือ เร็วบ้าง มีช่วงที่ฉันลองทดสอบว่า เธอจะคิดถึงกันบ้างมั้ย แต่มันก็คงเร็วเกินไปที่จะผูกพัน ละเป็นฝ่ายฉันที่ยอมแพ้เพื่อกลับไปหาเธอทุกที เราต่างหาเรื่องคุยเดาใจกันไม่ออก เล่นบ้าง นิ่งบ้าง จนฉันต้องมูพระแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์..'ลูกขอเคียงข้างน้องเขาได้มั้ย มีโอกาสได้ไปทำไรกันบ้าง'..จนเข้าสู่สองเดือนกว่าที่คุยกันมา เป็นช่วงเธอการบ้านกำลังทับถม ฉันบังเอิญไปเจออีเว้นเปิดตัวหนังสือคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอ ฉันได้ไปงานนี้กับเธอ ลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเธอจะโดดเรียนไปมั้ย สรุปเธอโดดเรียนครั้งแรกมาเจอไอดอลที่เธอชอบ วันนั้นเหมือนความฝันที่เป็นจริง ได้พูดคุยกับเธอตัวจริง 'การเป็นตัวเองนี่ดีจังนะ' ฉันคิด..ฉันไม่เคยรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ แต่เป็นเธอที่ให้พลังใจฉันในทุกวัน การได้พบเจอเธอคือโชคชะตา ละมองเห็นตัวเองในตอนเด็กจากเธอ ดังนั้นการเห็นเธอมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองให้ไป มันคือความสุขของฉันเช่นกัน จนถึงตอนนี้การได้คุยกับเธอคือ Sparkle ที่จุดประกายแสงในใจ ได้กลับมาพูดคุย รักในตัวเอง ละชื่นชมตัวตนเธอ :) หากจะลองขอพรอีกสักหลายรอบ ฉันคงขอว่า.. รักครั้งนี้มันบริสุทธิ์นะ ไม่ต้องจบลงด้วยคำว่า รักแท้ก็ได้ แต่ขอให้ได้เป็นคนให้กำลังใจเธอในทุกวันก็พอ อยู่ตรงนี้ได้ และรู้ว่าเธอเป็นอย่างไรในแต่ละวัน.. อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่แน่ใจหรอก ละรักต่างวัยอาจจะยากสักหน่อย ถึงกระนั้น..การรักเธอ ทำให้ฉันเข้าใจตัวเองมากขึ้น และ มีความรู้สึกดีดีที่อยากให้กับใครหลายคนที่เราหวังดีน่ะเอง <3 ขอบคุณนะที่เราได้เจอกัน แล้วอยากเข้าไปในโลกของเธอมากขึ้น :D
(Since then until now with hopeful love I express out to you,
the light in the day time xoxo : March 2025 For This precious love story still shine on)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in