เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My mixtapellatiblue
แปลเพลง how did it end? — taylor swift
  • สวัสดีทุกๆคนก่อนเลยนะคะ จริงๆไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไง เป็นครั้งแรกที่มาแปลเพลงลงในนี้ เคยแอบเขียนเรื่องสั้นเอาไว้ที่เว็บนี้แต่ลืม email เก่าไปซะแล้ว (แหะ) เดี๋ยวมันจะยืดยาว แต่ขออณุญาตเกริ่นว่าทำไมเราถึงเลือกเพลงนี้มาแปล พร้อมเหตุผลที่ทำให้การแปลเพลงของเราเริ่มขึ้นนะคะ ถ้าทุกคนพอมีเวลา ยินดีมากๆเลยค่ะถ้าทุกคนจะอ่านก่อนจะเริ่มอ่านคำแปล 🤍



    เราชอบเพลงเพลงนี้ตั้งแต่วันแรกที่ album “the tortured poets department” ปล่อยออกมาเลยค่ะ มันมาได้ถูกเวลาพอดี เรากำลังสูญเสียคนที่รักไปโดยไร้คำตอบว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ความรู้สึกของเราตามชื่อเพลงเลยค่ะ how did it end? มันโหว่งและรู้สึกว่างเปล่ามากๆจากที่ไม่กี่วันเรากลับรู้สึกมีทุกอย่างแต่ตอนนี้แค่คำพูดซักคำก็ไม่เคยออกมาจากปากเราอีกเลย แต่กลับมีเพลงนี้ที่เหมืิอนอ่านทุกอย่างในใจของเราแล้วเอามาสรรสร้างออกมาเป็นเพลงเศร้าจังหวะช้าแต่ทั้งดนตรีและเนื้อหาหนักหน่วงไม่แพ้ใคร



    ถึงแม้จะผ่านมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วตั้งแต่เพลงและอัลบั้มชุดนี้ปล่อยออกมา แผลใจเราก็เริ่มหายดี แต่แน่นอน ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ขึ้นมาใหม่เราไม่เคยลืมว่าครั้งแรกที่ได้ฟังสภาวะที่เรากำลังเผชิญนั้นเป็นยังไง เหมือนกับในเพลง Clean โดย Taylor Swift กับท่อนที่ว่า “Ten months sober, I must admit
    Just because you’re clean don’t mean you don’t miss it”



    ถ้าถามว่าเราชอบท่อนไหนเป็นพิเศษคงจะเป็นท่อน Soon they'll go home to their husbands
    Smug 'cause they know they can trust him” และ “Guess who we ran into at the shops?
    Walking in circles like she was lost”  เหตุผลที่เรารักสองท่อนนี้เป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นกับการที่มัน relate กับเราโดยตรง ตอนนั้นเรามีแต่ความคิดแง่ร้าย ออกไปทางเชิงอิจฉาคนรอบข้างที่รู้ว่าพวกเขาหันกลับไปทางไหนก็คงเจอคนรักที่ค่อยรออยู่ในแบบที่เราในอดีตก็เคยมี แต่เรากลับสูญเสียมันไปเรียบร้อยแต่ทุกคนยังคงมีอยู่ในแบบที่พวกเขาโล่งใจไร้ข้อกังขา กับอีกท่อนที่เรารู้เลยว่าแม้รอบข้างจะค่อยห่วงใยและหวังดีกับเรา แต่กลับบางคนที่อาจจะไม่รู้ว่าเรากำลังผ่านอะไรมา ตอนนั้นทั้งสภาพกายและจิตใจเราเละเทะพอสมควร ในระดับที่เราเชื่อว่าใครเห็นก็ต้องมีตั้งคำถามตามที่เนื้อเพลงได้กล่าวเอาไว้



    เราแปลเพลงนี้ไว้ประมาณครึ่งเพลงตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่กว่าจะสมบูรณ์ก็ไปจน album อายุครบหนึ่งขวบสักพักใหญ่ (แหะๆ) เนื่องด้วยชีวิตที่วุ่นวายกับสภาพจิตใจเราที่ทำให้บางทีก็ยังไม่พร้อมฟังเพลงนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ดีใจมากๆเลยค่ะที่มีวันนี้  ในที่สุดเพลงที่ทำให้เรารู้สึกอยากถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทยก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 



    🪶 disclaimer : ตามที่เราเขียนไว้ตรงหน้าแรก “translate everything in my own languages” เราถ่ายทอดเพลงนี้ออกมาเป็นภาษาของเราซึ่งผสมทุกๆอย่างไม่ว่าจะอารมณ์ส่วนตัวหรือความเป็นตัวเอง อาจจะแปลไม่ได้ตรงตัวตามเนื้อเพลงหลัก แต่ยังพยายามให้เหลือเค้าโครงเดิมให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงพยางค์และคำคล้องจอง สามารถติชมและแนะนำได้เต็มที่เลยนะคะ เรายินดีรับทุกความคิดเห็นของทุกๆคนเลยค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านเนื้อเพลงแปลไทยของเรานะคะ 🤍






    We hereby conduct this post-mortem
    ถึงคราที่เราต้องแจ้งผลชันสูตรนี้
    He was a hothouse flower to my outdoorsman
    เขาช่างเปราะบางเกินใครเทียบกับชายที่เคยมี
    Our maladies were such we could not cure them
    บาดแผลเกินเยียวยาที่ใครก็มิอาจรักษา
    And so a touch that was my birthright became foreign
    และสัมผัสที่คุ้นเคยสุดท้ายก็พร้อมจะบอกลา

    Come one, come all
    เอาล่ะ ฟังต่อ
    It's happenin' again
    เรื่องแบบนี้เกิดอีกหน
    The empathetic hunger descends
    หิวกระหายความเห็นใจ เจ็บเจียนสุดจะทนWe'll tell no one
    มีเพียงมิตรรู้ใจExcept all of our friends
    ได้ฟังเว้นฝูงชนWe must know
    สักวันคงได้รู้How did it end?
    มันจบด้วยเหตุใด?
    We were blind to unforeseen circumstances
    ช่างไม่รู้อะไร เราต่างมืดบอดต่อเรื่องราวWe learned the right steps to different dances 
    ทุกก้าวที่รำด้วยกัน พวกเราไกลห่างดั่งดวงดาว
    And fell victim to interlopers' glances
    สุดท้ายจบลงมี่พวกเขาพากันว่าปากเปล่าLost the game of chance, what are the chances?
    แพ้ให้กับเกมวัดดวง ได้แต่เอ่ยและบอกกล่าวSoon they'll go home to their husbands
    ในไม่ช้าคงกลับไปหาอ้อมกอดของสามีSmug 'cause they know they can trust him
    ใจมั่นคงเพราะเขาทั้งรักและหวังดีThen feverishly calling their cousins
    รีบวิ่งกรูบอกข่าวกับมิตรไมตรี
    Guess who we ran into at the shops?
    ทายสิ พบใครสุดแสนจะบังเอิญWalking in circles like she was lost
    เดินวนว้าวุ่นใจกับสิ่งทีีเผชิญDidn't you hear? They called it all off
    ข่าวลือหนาหู รักครั้งนี้มอดดับเหมือนโดนวางเพลิง
    One gasp and then
    และในพริบตาHow did it end?
    มันจบด้วยเหตุใด?

    Say it once again with feeling
    กล่าวอีกครั้งกับอารมณ์ที่มีHow the death rattle breathing
    ลมหายใจเฮือกสุดท้ายนี้Silenced as the soul was leaving
    วิญญาณไร้เสียงจากไปแต่โดยดีThe deflation of our dreaming
    ความฝันที่พังลงไม่เป็นชิ้นดีLeaving me bereft and reeling
    ทิ้งฉันไว้ปางตายไม่ใยดีMy beloved ghost and me
    เพียงฉันและรักที่มีSitting in a tree
    ใจที่ถูกย่ำยีD-Y-I-N-G
    หมด-ลม-ไร้-ชี-วี

    It's happenin' again
    เรื่องแบบนี้เกิดอีกหนHow did it end?
    มันจบด้วยเหตุใด?I can't pretend like I understand
    แสร้งไม่ไหวที่ทำเป็นต้องเข้าใจHow did it end?
    มันจบด้วยเหตุใด?
    Come one, come all
    เอาล่ะ ฟังต่อIt's happening again
    เรื่องแบบนี้เกิดอีกหนThe empathetic hunger descends
    หิวกระหายความเห็นใจ เจ็บเจียนสุดจะทนWe'll tell no one
    มีเพียงมิตรรู้ใจExcept all of our friends
    ได้ฟังเว้นฝูงชน
    But I still don't know
    ท้ายที่สุดไร้คำตอบHow did it end?
    มันจบด้วยเหตุใด?



    ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ หวังว่าจะชอบกัน
    สำหรับใครที่ชอบภาษาหรือสนใจงานอื่นๆของเรา 
    สามารถติดตามได้ที่
    twitter : @mywhaleandonly
    (ปล. เรารักการเขียนเป็นที่สุด และวาดรูปเป็นครั้งคราว)



    ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ และหวังว่าเราจะเจอกันอีก 🤲🏻✨

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in